สหรัฐอเมริกา: ท่าเรือในลองบีชและลอสแองเจลิสพังทลาย
ท่าเรือลองบีชและลอสแอนเจลิสเป็นท่าเรือสองแห่งที่พลุกพล่านที่สุดในสหรัฐอเมริกา ท่าเรือทั้งสองแห่งมีปริมาณงานเพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลักเมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนตุลาคม ซึ่งทั้งสองแห่งสร้างสถิติใหม่ ท่าเรือลองบีชรองรับตู้คอนเทนเนอร์ได้ 806,603 ตู้ในเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 17.2% จากปีก่อนหน้าและทำลายสถิติเมื่อเดือนที่แล้ว
จากข้อมูลของ California Trucking Association และ Port Trucking Association ระบุว่าตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 10,000 ถึง 15,000 ตู้ถูกเกยตื้นที่ท่าเรือลอสแองเจลิสและลองบีชเพียงแห่งเดียว ส่งผลให้การขนส่งสินค้าที่ท่าเรือ "เกือบเป็นอัมพาต" ท่าเรือชายฝั่งตะวันตกและเมืองชิคาโก ยังดิ้นรนเพื่อรับมือกับการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมตู้คอนเทนเนอร์เปล่า
ท่าเรือลอสแอนเจลีสกำลังเผชิญกับการจราจรและความแออัดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องมาจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องในเส้นทางจีน-สหรัฐอเมริกา ปริมาณสินค้าที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ปริมาณสินค้าไหลเข้าจำนวนมาก และปริมาณสินค้าที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
Gene Seroka ผู้อำนวยการบริหารของท่าเรือลอสแอนเจลีสกล่าวว่าขณะนี้ลานของท่าเรือเต็มไปด้วยตู้คอนเทนเนอร์ที่เต็มไปด้วยสินค้า และพนักงานท่าเรือกำลังทำงานล่วงเวลาเพื่อแปรรูปตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อลดการแพร่กระจายของไวรัส ท่าเรือจึงได้ลดขนาดลงชั่วคราวประมาณ หนึ่งในสามของพนักงานท่าเรือและเจ้าหน้าที่ท่าเรือ ทำให้การเติมสินค้าให้ทันเวลาทำได้ยาก ซึ่งหมายความว่าการขนถ่ายเรือจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
ขณะเดียวกันมีปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ในท่าเรือทั่วไป ปัญหาเรื่องเวลาโหลดนาน ประกอบกับความไม่สมดุลของตู้คอนเทนเนอร์อย่างร้ายแรงในการค้าแปซิฟิก ส่งผลให้มีตู้คอนเทนเนอร์นำเข้าจำนวนมากในท่าเรือที่ค้างอยู่ในท่าเรือของสหรัฐอเมริกา ท่าเรือ ความแออัดการหมุนเวียนตู้คอนเทนเนอร์ไม่ฟรีส่งผลให้มีการขนส่งสินค้า
“ขณะนี้ท่าเรือลอสแองเจลิสกำลังประสบกับเรือจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามา” ยีน เซโรกา กล่าว “การมาถึงโดยไม่ได้วางแผนกำลังสร้างปัญหาที่ยากมากสำหรับเรา ท่าเรือแออัดมากและอาจส่งผลต่อเวลาที่เรือมาถึง”
หน่วยงานบางแห่งคาดว่าความแออัดที่ท่าเรือสหรัฐฯ จะดำเนินต่อไปจนถึงไตรมาสแรกของปี 2021 เนื่องจากความต้องการสินค้ายังคงสูง ความล่าช้าที่ใหญ่ขึ้นและมากขึ้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น!
เวลาโพสต์: Nov-24-2020